ในช่วงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ข่าวคราวของวัดพระธรรมกายกับการถูกฟ้องร้องเป็นคดี มากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ล่าสุด อบต. คลองสาม โดนกดดันจากหน้าที่ตำรวจระดับสูง ให้ทำการฟ้องร้องดำเนินคดีกับ
วัดพระธรรมกาย ในข้อหาความผิดอะไรก็ได้ที่สามารถจะหาได้ หวยเลยมาตก ที่การก่อสร้างอาคารต่างๆภายในวัดไม่ได้ขออนุญาต จากองค์กรท้องถิ่น
กลายเป็นที่มาว่า วัดพระธรรมกาย สร้างโบสถ์ โดยไม่ขออนุญาตองค์กรท้องถิ่น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทนายความวัดพระธรรมกายได้ออกมาแย้ง ถึงการก่อสร้างศาสนสถาน
ภายในวัด ว่ามีกฎกระทรวงยกเว้นเพื่อการศาสนา สามารถกระทำได้
ดังนั้น ในแง่กฎหมายแล้ว วัดพระธรรมกายจึงไม่ผิด และโบสถ์ก็สร้างก่อนจะมี อบต.เสียอีก
และทีมทนายยังได้ทำการฟ้องกลับ อบต.คลองสาม ว่าได้กระทำผิดตามมาตรา157 คือปฏิบัติ
หน้าที่มิชอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ อบต. ต้องไปเร่งตรวจสอบกันใหญ่ ถึงความถูกต้อง ท้ายที่สุด อบต.ก็ต้อง
ออกมาถอนฟ้องวัดพระธรรมกาย
นักข่าวต่างพากันไปสอบถามนายตำรวจผู้ใหญ่ระดับสูง ที่ผลักดันให้มีการฟ้องร้องวัดพระธรรมกายเกี่ยวกับเรืองนี้
แต่คำตอบที่ได้ กลับเป็นว่า ผมไม่เกี่ยว มันเป็นเรื่องฟ้องร้องกันระหว่าง องค์กรส่วนท้องถิ่นกับ
วัดพระธรรมกาย ทำให้ อบต.คลองสาม ต้องออกมาโวย ว่าผมโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้าไม่ทำตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมาเอาผิดผม ม.157 ฐานละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อไปทำตามจนท.ตำรวจก็โดนวัดฟ้อง ทำผิด ม.157 ฐานประพฤติมิชอบอีก
อะไรมันจะ ซวยซ้ำซวยซ้อน ได้ขนาดนี้ การไปกดดันให้เขาทำงานพอผิดพลาด ตัวเองกลับ
ไม่ผิดชอบอะไรที่เกิดขึ้นกับผู้ทำ
โคตรจะไม่แมนเอาซะเลย...!!!
ก็คงต้องฝากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแหละครับ ว่าท่านจะรับคำสั่งจากคนที่ ไม่ใช่หัวหน้างานของท่าน
โดยตรง แต่กลับมากดดัน ให้ท่านทำในสิ่งที่ผิด เพราะเมื่อถึงคราวกรรมย้อนกลับ ตัวท่านเองกลับต้อง
รับผิดแต่เพียงผู้เดียว
หรือจะปฏิเสธคำสั่งผิดๆนั้น
